ลิเวอร์พูล จะกลายเป็นสโมสรที่ 4 ในประวัติศาสตร์ตามรอย แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล และ เชลซี ที่ไม่แพ้ให้กับทีมไหนในเกม พรีเมียร์ลีก ถึง 30 นัด หากบุกไปชนะหรือเสมอ คริสตัล พาเลซ วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ได้สำเร็จ
สถิติทีมที่ไม่แพ้ใน พรีเมียร์ลีก ถึง 30 นัด
แมนฯ ซิตี้ 30 เกม (เมษายน 2017-มกราคม 2018)
อาร์เซน่อล 30 เกม (ธันวาคม 2001-ตุลาคม 2002)
เชลซี 40 เกม (ตุลาคม 2004-ตุลาคม 2005)
อาร์เซน่อล 49 เกม (พฤษภาคม 2003-ตุลาคม 2004)
รายงานของ เดอะ ซัน สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี รายงานว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยอดสโมสรแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะได้โบนัส 2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 76 ล้านบาท) ถ้าหากสามารถพาทีมจบฤดูกาลนี้ด้วยการติดอยู่ใน 4 อันดับแรกของตารางคะแนนได้ สเปอร์ส ทำผลงานได้ย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ หลังเพิ่งเก็บได้เพียง 14 คะแนน จากการลงเล่น 12 นัด พร้อมกับอยู่ในอันดับ 14 ของตารางคะแนน และตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมในอันดับ 4 ซึ่งเป็นโควตาสุดท้ายสำหรับการได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ถึง 11 แต้ม โดยฟอร์มที่เลวร้ายดังกล่าวทำให้ “ไก่เดือยทอง” ตัดสินใจปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ออกจากการเป็นกุนซือของทีม แล้วดึง มูรินโญ่ มาคุมทีมแทน
รายงานจาก สปอร์ต สื่อกีฬาชั้นนำแดนกระทิงดุ รายงานว่า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้าคนสำคัญของ อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ขอชะลอการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด เชื่อกันว่า โอบาเมย็อง กำลังพิจารณาถึงเรื่องอำลาถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า เจ้าตัวกำลังได้เป็นที่ต้องการของ บาร์เซโลน่า โดยยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลุนย่ากำลังมองหาตัวแทนในระยะยาวของ หลุยส์ ซัวเรซ ยอดหัวหอกชาวอุรุกวัย ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ ดาวยิงชาวกาบองวัย 30 ปี ต้องการศึกษาความสนใจจาก บาร์เซโลน่า ก่อนที่จะตัดสินใจคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด
มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าคนดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความมั่นใจว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” คนปัจจุบัน คือคนที่เหมาะสมสำหรับการเป็นกุนซือของทีม ถึงแม้ก่อนหน้านี้บอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะแสดงออกว่าให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ โซลชา แต่กระแสข่าวเรื่องที่กุนซือชาวนอร์เวย์อาจจะโดนปลดก็กลับมารุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เพิ่งโดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไล่ออกไปหมาดๆ โดยยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็เคยมีข่าวกับ โปเช็ตติโน่ อย่างหนักเหมือนกัน โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ออกมากล่าวว่า
“โอเล่ เป็นคนที่ยอดเยี่ยม เขาให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของสโมสร มันไม่มีใครที่เหมาะกับงานนี้มากไปกว่าเขาอีกแล้ว ตอนที่ผมต่อสัญญากับทีมน่ะผมไม่มีอาการลังเลเลย และ โอเล่ ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรแกร่งแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนจะไม่ปล่อยนักเตะออกจากทีมในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบสอง ช่วงเดือนมกราคมนี้ แม้แต่คนเดียว เลสเตอร์ กำลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจนเป็นอันดับ 2 ของตารางคะแนน แถมพวกเขายังชนะในลีกมา 4 นัดติดต่อกันด้วย ซึ่งมันก็ทำให้นักเตะหลายคนของพวกเขาที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่น เจมส์ แมดดิสัน ที่มีข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เบน ชิลเวลล์ ซึ่งตกเป็นข่าวกับ เชลซี เป็นต้น โดย เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กล่าวว่า
“เราอยากเติบโตไปด้วยกัน และทีมชุดนี้ยังสามารถพัฒนาได้อีกหลายด้าน ในช่วงเดือนมกรทาคมนี้เราไม่มีแผนที่จะปล่อยใครออกไปทั้งนั้น งานของเราคือการรั้งตัวนักเตะที่มีอยู่ในตอนนี้เอาไว้ให้ได้ และถ้ามันมีโอกาสที่จะทำให้ขุมกำลังมันดีขึ้น”
เคลแบร์สัน อดีตกองกลางชาวบราซิเลียน กล่าวว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเล่นในสไตล์ที่คล้ายกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงคนดังของ ยูเวนตุส หลังจากทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ในช่วงแรกๆ แรชฟอร์ด ก็เริ่มโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยเขาทำประตูได้ถึง 9 ลูก จากการลงเล่น 10 นัดหลังสุด โดย เคลแบร์สัน กล่าวถึงเจ้าตัวว่า
“มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดของ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ เขาดูอันตรายมากๆ เวลาบุกขึ้นหน้า และเวลาอยู่หน้าปากประตู เขาเล่นโดยที่มีความมั่นใจสูงสุดๆ เขาเล่นด้วยสไตล์ที่เหมือนกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอนที่พวกเขาเล่นให้ ยูไนเต็ด นะ ทั้งคู่ต่างก็อยากพาบอลบุกขึ้นหน้าอยู่เสมอ”
เลสเตอร์ ซิตี้ หวังคว้าชัยเพื่อทำแต้มไล่จี้ ลิเวอร์พูล จ่าฝูง โดยมี เจมี่ วาร์ดี้ ลงซัดตาข่าย เกมเยือนถิ่น “นกนางนวล” ไบรท์ตัน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 23 พ.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier HD 3, เวลา : 22.00 น.
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ไบรท์ตัน – เลสเตอร์ ซิตี้ อังกฤษวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2562
สนาม : แอแม็กซ์ สเตเดี้ยม
เกรแฮม พอตเตอร์ พาทีม ไบรท์ตัน เกาะอยู่ในอันดับ 11 จุดเด่นคือการเล่นในบ้านที่ชนะมา 3 นัดรวด อย่างไรก็ตามฟอร์มล่าสุดพวกเขาออกไปแพ้ แมนฯยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-3 ไบรท์ตัน มีปัญหาที่เกมรับแน่เนื่องจากนัดนี้จะไม่มี ลูอิส ดังค์ เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญที่จะติดโทษแบนเนื่องจากได้ใบเหลืองครบ 5 ใบ
นอกจากนี้ อดัม เว็บส์เตอร์ เซนเตอร์แบ็กอีกรายของทีมก็มีอาการเจ็บที่ข้อเท้าต้องทดสอบความฟิตก่อน ส่วน แบร์นาร์โด้ ยังไม่ฟิตต้องรอสัปดาห์หน้าจึงจะคัมแบ็ก นอกจากนี้กองหน้าดาวรุ่งอย่าง แอรอน คอนนอลลี่ มีอาการเจ็บที่โคนขาหนีบ ไม่พร้อมสำหรับเกมนี้เช่นกัน
ขณะที่ เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส กุนซือ เลสเตอร์ ซิตี้ พาทีมโชว์ฟอร์มหรูชนะในลีก 4 เกมติดต่อกันจนขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงตามหลัง ลิเวอร์พูล 8 แต้ม โดยก่อนเกมทีมชาติพวกเขาเปิดบ้านทุบ อาร์เซน่อล ไป 2-0
เลสเตอร์ มีทีมที่ลงตัวแถมนักเตะยังฟิตเปรี๊ยะไม่มีตัวหลักบาดเจ็บอีกด้วย ดังนั้น ร็อดเจอร์ส จะได้ใช้ทีมชุดเดิมซึ่งนำมาโดย เจมี่ วาร์ดี้ ดาวซัลโวอันดับ 1 พรีเมียร์ลีกในเวลานี้ ด้านตัวสนับสนุนอย่าง อโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลม็องส์, เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ก็อยู่กันครบครัน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไบรท์ตัน (4-4-2) : แม็ทธิว ไรอัน – มาร์ติน มอนโตย่า, อดัม เว็บส์เตอร์, เชน ดัฟฟี่, แดน เบิร์น – สตีเว่น อัลซาเต้, ดาวี่ พร็อพเพอร์, เดล สตีเฟ่นส์, เลอันโดร ทรอสซาร์ด – นีล โมปาย, เกล็น เมอร์เรย์
ผู้จัดการทีม : เกรแฮม พ็อตเตอร์
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ริคาร์โด้ เปไรร่า, จอนนี่ อีแวนส์, คากลาร์ โซยุนคู, เบน ชิลเวลล์ – วิลฟรีด เอ็นดิดี้ – อโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลม็องส์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้
ผู้จัดการทีม : เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส
ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน
เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
– เลสเตอร์ คว้าชัยได้ 6 จาก 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– เลสเตอร์ เก็บคลีนชีตได้ตลอด 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– ไบรท์ตัน เอาชนะได้ตลอด 3 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– เลสเตอร์ ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูต่อเกมถึง 6 จาก 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– ไบรท์ตัน ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูต่อเกมตลอด 3 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
ผลการพบกันที่ผ่านมา
วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน
27/02/19 พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ ซิตี้ 2 – 1ไบรท์ตัน
24/11/18 พรีเมียร์ลีก ไบรท์ตัน 1 – 1เลสเตอร์ ซิตี้
31/03/18 พรีเมียร์ลีก ไบรท์ตัน 0 – 2เลสเตอร์ ซิตี้
19/08/17 พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ ซิตี้ 2 – 0ไบรท์ตัน
09/04/14 ชปช. เลสเตอร์ ซิตี้ 1 – 4ไบรท์ตัน
07/12/13 ชปช. ไบรท์ตัน 3 – 1เลสเตอร์ ซิตี้
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ไบรท์ตัน
10/11/19 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
02/11/19 ชนะ นอริช ซิตี้ 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
26/10/19 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
19/10/19 แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
05/10/19 ชนะ สเปอร์ส 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ ซิตี้
10/11/19 ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
03/11/19 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
29/10/19 ชนะ เบอร์ตัน 3-1 (เยือน) ลีก คัพ
25/10/19 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 9-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19/10/19 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ”กุน” ลงปิดสกอร์ เกมรับมือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่มี แทมมี่ อบราแฮม พร้อมล่าตาข่าย ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2562 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – เชลซี ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1, เวลา : 00.30 น.
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พาทีมแพ้ลิเวอร์พูล 1-3 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 5 เกม สถานการณ์ลุ้นแชมป์ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ความพร้อมเกมนี้ เป๊ปจะไม่มีแบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่ติดโทษแบน 1 นัด จากเหตุการณ์ทวีตข้อความเชิงเหยียดผิว รวมไปถึงโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่บาดเจ็บ
ส่วนเอแดร์ซอน โมราเอส ประตูมือ 1 ที่พลาดเกมล่าสุด เพราะมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อ ต้องรอทดสอบความฟิต ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็จะเป็นโอกาสของเคลาดิโอ บราโว ต่อไปอีกเกม อย่างไรก็ตามแกนหลักแดนหน้าพร้อมแน่ทั้ง ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ”กุน”
ส่วน แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี พาทีมชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 ในเกมล่าสุด เป็นชัยชนะนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม ความพร้อมเกมนี้ ”แลมพ์ส” จะได้จอร์จินโญ่ พ้นโทษแบนกลับมาเสริม
แต่ในรายของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค และ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่บาดเจ็บยังชวดทั้งหมด ส่วน คริสเตียน พูลิซิช ที่มีอาการเจ็บสะโพกรบกวน ต้องรอทดสอบความฟิต หากไหวหน้าตาสิงห์น้ำเงินแนวรุกจะออกมาอย่างนี้ วิลเลี่ยน, เมสัน เมาน์ท, คริสเตียน พูลิซิช และ แทมมี่ อบราแฮม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส (เคลาดิโอ บราโว) – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฟร์นันดินโญ่, อังเคลินโญ่ – โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน – ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง – เซร์คิโอ อเกวโร่ ”กุน”
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
เชลซี (4-2-3-1) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า – รีซ เจมส์, คัวร์ท ซูม่า, ฟิคาโย่ โทโมรี่, เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ – เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่ – วิลเลี่ยน, เมสัน เมาน์ท, คริสเตียน พูลิซิช – แทมมี่ อบราแฮม ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
– แมนฯ ซิตี้ เอาชนะได้ 23 จาก 26 นัดเหย้าหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– แมนฯ ซิตี้ มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ถึง 11 จาก 13 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– เชลซี เอาชนะได้ตลอด 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– เชลซี มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ตลอด 6 นัดเยือนหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– เชลซี มีสกอร์นำในครึ่งแรก และชนะตอนจบเกมมาตลอด 4 นัดเยือนหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– แมนฯ ซิตี้ เก็บคลีนชีตได้ 5 จาก 6 นัดหลังสุดที่พบเชลซี รวมทุกรายการ
– เชลซี ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูต่อเกมตลอด 5 นัดเยือนหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– มีสกอร์รวมต่ำกว่า 2.5 ถึง 5 จาก 6 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกันรวมทุกรายการ
ซาดิโอ มาเน่ ปีกตัวเก่ง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีโอกาสยืดสถิติทำประตูใส่ คริสตัล พาเลซ ของตัวเอง ในเกมที่ “หงส์แดง” จะยกพลไปเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” ที่สนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค คืนวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เอาชนะ พาเลซ ได้ทั้ง 4 นัดหลังสุด และดาวเตะเซเนกัล ก็ทำประตูมาได้ทุกนัดด้วย ซึ่งถือเป็นสถิติของนักเตะ “หงส์แดง” ที่ยิงใส่ “ปราสาทเรือนแก้ว” ติดต่อกันมากสุด และถ้าเจ้าตัวซัดได้อีกในเกมคืนนี้ก็จะยืดสถิติเป็น 5 เกมติดต่อกัน
นอกจากนั้น จาก 10 เกมที่ ซาดิโอ มาเน่ ลงเจอ คริสตัล พาเลซ เขายังยิงไปรวมกันแล้ว 7 ประตู มากกว่าคู่ต่อสู้ทุกทีมที่เขาเคยเจอมาอีกด้วย ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ยังมีสถิติยอดเยี่ยมในการเล่นเป็นทีมเยือน หลังไม่แพ้มาแล้ว 14 เกม ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 3 ที่ยาวนานสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก
โรแบร์ ปิแรส ตำนานกองกลาง อาร์เซน่อล ออกโรงแนะนำให้ อูไน เอเมรี่ กุนซือ “ปืนใหญ่” ดึงนักเตะที่เป็นชาวอังกฤษ เข้ามาร่วมทีมอีก หากต้องการทำผลงานให้ดีขึ้น เนื่องจากแข้งผู้ดีมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง และมีความเป็นผู้นำสูง ในเวลานี้ เอเมรี่ กลายเป็นเต็ง 1 กุนซือ พรีเมียร์ลีก ที่จะโดนเด้งรายต่อไป หลังจากนำทีมเก็บชัยชนะได้แค่ 4 จาก 12 เกมลีกรั้งอยู่ในอันดับ 6 สวนทางกับเงินลงทุนที่สโมสรควักจ่ายไปกว่า 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,800 ล้านบาท) ในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดย โรแบร์ ปิแรส กล่าวว่า
“ทีมจำเป็นต้องมีส่วนผสมหลายอย่างทั้ง ความแข็งแกร่งของร่างกาย, เทคนิค, ความฉลาด แน่นอนว่า เราต้องการผู้นำ เราต้องการนักเตะอังกฤษ เพราะเราเล่นอยู่ในอังกฤษ และไม่มีใครอีกแล้วที่เติบโตมาแบบมีสภาพจิตใจเช่นนี้ คุณจำเป็นต้องเกิดที่นี่ มันเป็นเรื่องดีที่คุณได้ค้นพบประเทศใหม่ๆ แต่สำหรับผมแล้ว เวลาที่คุณเล่นในอังกฤษ คุณย่อมต้องการนักเตะอังกฤษ”
Aterdom